
ในกรณีของเส้นเลือดขอดที่จำเป็นต้องได้รับการรักษา แพทย์อาจแนะนำให้ใส่ถุงน่องสำหรับรักษาเส้นเลือดขอดก่อนการรักษาด้วยวิธีอื่น โดยใส่รัดขาไว้ตลอดทั้งวันเพื่อช่วยให้เลือดไหลเวียนกลับสู่หัวใจได้ดียิ่งขึ้น ส่วนผู้ที่มีอาการเส้นเลือดขอดรุนแรงจนไม่สามารถรักษาด้วยตนเองหรือรักษาด้วยการใส่ถุงน่องได้ผล แพทย์อาจพิจารณารักษาด้วยวิธีการดังต่อไปนี้
มีอาการคันบริเวณรอบ ๆ เส้นเลือดเส้นใดเส้นหนึ่งหรือหลายเส้น
การประเมินความเสี่ยงการเป็นเส้นเลือดขอด
การใช้สายสวนหลอดเลือดด้วยการใช้คลื่นความถี่วิทยุหรือเลเซอร์
บริการแยกชำระได้หลายช่องทางในหนึ่งบิล
ทำพฤติกรรมบางอย่างที่ทำให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวก เช่น สวมชุดที่คับเกินไปโดยเฉพาะบริเวณเอว ขาหนีบ เป็นต้น
ควบคุมอาการท้องผูกให้ดี โดยการรับประทานผักผลไม้ให้มากขึ้น
การร้อยไหมเอ็นโดสโคปิกทรานสลูมิเนเตอร์ ซึ่งเป็นแสงพิเศษผ่านแผลใต้ผิวหนังเพื่อให้แพทย์เห็นว่าต้องเอาเส้นเลือดส่วนใดออก จากนั้นจะตัดและเอาเส้นเลือดเป้าหมายออกด้วยอุปกรณ์ดูดผ่านแผล โดยใช้ยาชาทั่วไปหรือยาชาเฉพาะที่ หลังการผ่าตัดอาจมีเลือดออกและฟกช้ำ
แพทย์สามารถวินิจฉัยโรคเส้นเลือดขอดได้จากการซักประวัติอาการและการตรวจร่างกาย (โดยเฉพาะการตรวจเห็นเส้นเลือดขอดที่ขา ซึ่งก็จะเป็นตัวช่วยวินิจฉัยโรคนี้ได้ ซึ่งแพทย์จะตรวจดูเส้นเลือดขอดทั้งท่ายืนและท่านอน) โดยไม่มีความจำเป็นต้องตรวจพิเศษอื่น ๆ เพิ่มเติม ยกเว้นในรายที่แพทย์คิดว่ามีภาวะแทรกซ้อน เช่น ผู้ป่วยมีแผลเรื้อรังที่ขา ขาบวม เคยมีประวัติการถูกยิงหรือถูกแทงที่ขา มีเส้นเลือดที่ขาข้างเดียวในขณะที่ขาอีกข้างยังปกติ มีเส้นเลือดขอดเกิดขึ้นตั้งแต่วัยเด็ก มีกระดูกหักนำมาก่อนที่จะมีเส้นเลือดขอด เป็นต้น
ภาวะแทรกซ้อนจากเส้นเลือดขอดที่อาจเกิดขึ้นได้
คำถามที่คนไข้สอบถามมาเยอะมากค่ะ รักษาเส้นเลือดขอด ส่วนใหญ่มักจะกลัวเข็ม คิดว่าฉีดสลายเส้นเลือดขอดจะเจ็บมากซึ่งหมอบอกเลยนะคะว่าเจ็บค่ะ แต่เจ็บทนได้
หลีกเลี่ยงการใส่ส้นสูง หรือถุงเท้ารัดๆ และเปลี่ยนท่าทางการนั่งและยืนอยู่เสมอ
การส่งต่อผู้ป่วยมาที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์
หรือเกิดแผลหลังการฉีดสลาย ในกรณี อาจเกิดจากการที่ตัวยาสลายเส้นเลือดขอดรั่วออกจากเส้นเลือดทำให้เนื้อเยื่อถูกทำลาย ทำให้เกิดแผลในที่สุดซึ่งแผลจากยาสลายเส้นเลือดขอดจะเป็นแผลอยู่นานหลายสัปดาห์ใช้เวลานาน